ร้าน เพชรชมพู จิวเวลรี่

บทความ

ราคากลางในตลาดเพชร RAPAPORT

15-03-2560 13:47:34น.

ราคากลางในตลาดเพชร RAPAPORT

ใครที่เคยซื้อเพชร คงจะเคยได้ยินคำว่า ราคากลาง ราคาพอร์ทหรือ Rapaport กันมาบ้างไม่มากก็น้อย วันนี้เราจะมาคุยกันว่า เจ้า Rapaport นี้คืออะไร ใช้ยังไงและมีความสำคัญอย่างไร

 'Rapaport' เป็นชื่อเรียกตารางราคากลางของเพชร ซึ่งเป็นราคากลางที่เราใช้ในการซื้อขายเพชรกันทั่วโลก นักซื้อเพชรรุ่นเดอะอาจจะเคยได้ยินว่า การซื้อขายเพชรนั้นง่ายกว่าการซื้อขายพลอย เนื่องจากเพชรมีราคากลางแต่พลอยไม่มีราคากลาง ซึ่งคำว่า 'ราคากลาง' ที่พูดถึงกันนี้ก็คือเจ้าราคา Rapaport ตัวนี้เองแหละ

 ราคากลางนี้จะมีลักษณะเป็นตาราง แยกเพชรออกตามน้ำหนัก แต่ละตารางต่อขนาดของเพชร เช่น น้ำหนัก 0.30-0.39 ก็จะใช้กลุ่มราคาเดียวกัน

 ดังนั้น ถ้าเพชรน้ำหนักเท่ากัน สีเดียวกัน แต่ความสะอาดไม่เท่ากัน ราคาก็จะไม่เท่ากันไปด้วย

 เพชรทรงกลมหรือ Round Brilliant จะมีตารางราคาทั้งหมด 18 ตาราง ส่วนเพชร Fancy Cut จะใช้ตารางราคาของเพชร Pear Shape ซึ่งมีทั้งหมด 14 ตาราง 14 ไซส์

 คูณกันเล่นๆว่า เฉพาะเพชรกลม ถ้ามีทั้งหมด 18 ตารางราคา แต่ละขนาดก็มีอีก 110 ระดับราคา ก็จะทำให้ราคาเพชรที่มีการซื้อขายกันในตลาด มีทั้งหมด 1,980 ระดับราคา รวมกับเพชรแฟนซีอีก 1,540 ระดับ  ทั้งหมด 3,520 เกรดราคา

 เป็นเหตุผลว่าทำไมราคาเพชรจึงเหมือนเป็นความลับนักหนา แต่จริงๆ ไม่ใช่อะไรหรอก คือมัน 'เยอะ' จนไม่รู้จะบอกยังไงต่างหาก

 ราคา Rapaport นั้นจะมีหน่วยเป็นสกุลเงิน US Dollar เสมอ ก่อนการใช้งานทุกครั้งเราจึงต้องนำมาคำนวณจากเงินดอลล่าร์กลับมาเป็นเงินบาทไทย และแน่นอนว่าราคานั้นจะเปลี่ยนแปลงทุกวันตามค่าเงินที่เปลี่ยนไป ไม่เฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากค่าเงินเท่านั้น แต่ Rapaport เองก็มีการปรับเปลี่ยนราคาอยู่ทุกสัปดาห์ โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงในทุกวันศุกร์ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงของประเทศไทย ซึ่งในการปรับราคาในภาคทฤษฎีจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกวันศุกร์ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว บางศุกร์ก็อาจจะไม่มีการขึ้นลงเลยก็ได้

 หลายคนคงอยากทราบว่าจะหาตาราง Rapaport นี้ได้จากที่ไหน คำตอบก็คือ เจ้าราคากลางตัวนี้ไม่มีให้ชมในเวปไซด์ทั่วไปนะคะ แต่ต้องสมัครสมาชิกในราคาปีละ 250 เหรียญสหรัฐเพื่อ Login เข้าไปชมที่ www.diamonds.net และจะได้รับอีเมล์แจ้งราคา Rapaport ทุกสัปดาห์อีกด้วย

 หรือมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นคือการขอข้อมูลจากร้านเพชรที่รู้จักคุ้นเคยกัน หากต้องการข้อมูลของเพชรสเป็คไหนก็สามารถโทรสอบถามราคากลางกันได้  น่าจะเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดกว่าเยอะเลย

 ส่วนวิธีคิดราคาเพชรจาก Rapaport นั้นไม่ยากเลยค่ะ จะยกตัวอย่างให้ลองดูกันนะคะ

 สิ่งที่ต้องรู้ในการดู มี 4 อย่าง คือ

1) Carat น้ำหนักเพชร

2) Clarity ความสะอาด

3) Color สีเพชร

4) ค่าเงินบาท US Dollar

 ยกตัวอย่างเช่น เพชรน้ำหนัก 1 ct. / ความสะอาด VS1 / สีน้ำ 97 (G color) / ค่าเงิน 30 บาท:US

 วิธีคิด

 แปลงค่าเป็นจำนวนเต็มก่อน โดยใส่ 00 เพิ่มลงไป เนื่องจากในตารางเป็นตัวเลขย่อค่ะ ซึ่งตัวเลขที่ได้จากตารางเป็นราคาต่อกะรัต อย่าลืมนำไปคูณกับน้ำหนักเพชร เวลาคิดด้วยนะคะ

 แปลงค่าจากตัวย่อเป็นจำนวนเต็ม ใส่ 0 เพิ่ม 2 ตัว  x  ค่าเงินปัจจุบัน  x น้ำหนักเพชรกะรัต = ราคาเพชรที่ได้จาก Rapaport

 จาก 90 US Dollar >> เป็น 9,000 US

9,000 US x 30 (ค่าเงินบาท) = 270,000 บาท

270,000 x น้ำหนัก 1.00 กะรัต = 270,000 บาทถ้วน

 จากราคาเต็มนี้ จะถือเป็นมาตรฐานราคากลางของตลาดเพชร โดยส่วนใหญ่ร้านเพชร จะลดเปอร์เซ็นต์ให้ลูกค้าจากราคาเต็มได้แตกต่างกันไปแล้วแต่ช่วงนั้นส่วนลดมากน้อยแค่ไหน แต่ละสเป็คก็จะมีส่วนลดที่แตกต่างกันออกไปอีก

 ส่วนลดจาก Rapaport จึงเป็นสิ่งที่เอามายึดเป็นสรณะไม่ได้ว่า ถ้าเมื่อสามปีก่อนได้ลด 20% วันนี้จะต้องลด 20% เท่ากัน เพราะในช่วงนั้น เค้าอาจจะซื้อขายกันถูก หรือ แพง กว่านั้นก็ได้

 ดังนั้น จึงควรเช็คให้ดีก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงินนะจ๊ะ

 

 

  เครดิต     http://www.diamondguru.co.th/